หมอจีนเลือกใช้ยาจีนอย่างไร? เข้าใจหลักการจ่ายยาแบบจีน

ยาจีน เป็นศาสตร์ที่มีมาแต่โบราณ และหมอจีนไม่ได้จ่ายยาจีนเพียงแค่เลือกสมุนไพรแล้วให้คนไข้ไปต้มดื่ม แต่ต้องอาศัยหลักการที่ซับซ้อนกว่ามาก วันนี้เราจะพาไปเข้าใจว่า หมอจีนเลือกยาจีนอย่างไร และเหตุผลที่ทำให้ยาจีนมีประสิทธิภาพในการรักษาโรค

หลักพื้นฐานของยาจีน: ไม่ได้รักษาแค่โรค แต่ดูที่ต้นเหตุ

ต่างจากยาแผนปัจจุบันที่มุ่งรักษาตามอาการ เช่น มีไข้ก็กินยาลดไข้ หรือปวดหัวก็กินยาแก้ปวด ยาจีนเน้นแก้ที่ต้นเหตุของอาการ เช่น ถ้าปวดหัวเพราะเลือดลมไม่ไหลเวียน หมอจีนจะเลือก ยาจีนที่ช่วยปรับสมดุลเลือดลม แทนที่จะให้ยาแก้ปวดตรงๆ

หมอจีนต้องวิเคราะห์สุขภาพของคนไข้โดยใช้ศาสตร์ “สี่วิธีวินิจฉัย” ได้แก่
การมอง (望診) – สังเกตสีหน้า ลิ้น ผิวพรรณ
การฟังและดม (聞診) – ฟังเสียงพูด เสียงหายใจ และกลิ่นร่างกาย
การสอบถาม (問診) – ซักประวัติอาการ การกินอยู่ การนอน
การจับชีพจร (切診) – ตรวจชีพจรที่ข้อมือเพื่อดูภาวะสมดุลของอวัยวะภายใน

หลังจากนั้นจึงเลือก ยาจีนที่เหมาะสม กับสภาพร่างกายของแต่ละคน

หลักการเลือกยาจีน: สูตรยาจีนต้องสมดุลกัน

การจ่าย ยาจีน ไม่ได้เลือกสมุนไพรเดี่ยวๆ แต่ต้องจัดเป็น “ตำรับยา” โดยมีโครงสร้างหลัก 4 ส่วน

1️⃣ 君 (จวิน) – ตัวยาหลัก → ใช้รักษาอาการโดยตรง เช่น อาการไอ จะใช้ ปักคี้ หรือ มะขามป้อม เป็นตัวยาหลัก
2️⃣ 臣 (เฉิน) – ตัวยารอง → ช่วยเสริมฤทธิ์ยาหลัก เช่น หากไอจากเสมหะเหนียว อาจเพิ่ม ชะเอมเทศ หรือ เปลือกส้มจีน
3️⃣ 佐 (จั่ว) – ตัวยาประกอบ → ปรับสมดุลและลดผลข้างเคียง เช่น ถ้าใช้โสม ซึ่งมีฤทธิ์ร้อน อาจต้องเพิ่ม ดอกเก๊กฮวย เพื่อลดความร้อน
4️⃣ 使 (สือ) – ตัวยานำ → นำพายาไปยังอวัยวะเป้าหมาย หรือช่วยให้ยาดูดซึมดีขึ้น เช่น ใช้ ขิงแห้ง เป็นตัวช่วยนำยาเข้าสู่ปอด

การเลือกใช้ยาจีนจึงต้องมีการจัดสูตรให้เหมาะสม ไม่ใช่แค่เลือกสมุนไพรที่รักษาอาการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูว่าแต่ละตัวทำงานร่วมกันอย่างไร

ประเภทของยาจีน: เลือกให้เหมาะกับอาการและร่างกาย

หมอจีนจะแบ่งประเภทของ ยาจีน ออกเป็นหลายกลุ่มตามการทำงาน เช่น

🔹 ยาจีนบำรุงพลัง (补气药 – ปู่ชี่เหยา) → ใช้ฟื้นฟูพลังชี่ เช่น โสม ตังกุย ปักคี้
🔹 ยาจีนบำรุงเลือด (补血药 – ปู่เสวี่ยเหยา) → ใช้สำหรับคนเลือดพร่อง ซีด เช่น ตังกุย ห่อสิ่วโอว
🔹 ยาจีนขับลมและลดความชื้น (祛湿药 – ฉวีซือเหยา) → ช่วยลดอาการบวมน้ำ ปวดข้อ เช่น เถาวัลย์เปลือกแดง โกฐน้ำเต้า
🔹 ยาจีนบำรุงไต (补肾药 – ปู่เซินเหยา) → เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ หรือคนมีภาวะไตอ่อนแอ เช่น เขากวางอ่อน ถั่งเช่า
🔹 ยาจีนขับพิษ (清热解毒药 – ชิงเหร่อเจี๋อตู๋เหยา) → ลดไข้ ร้อนใน อักเสบ เช่น เก๊กฮวย จินหยินฮวา

เมื่อคนไข้มาหาหมอจีน หมอจะเลือกสูตร ยาจีน ตามภาวะร่างกายของแต่ละคน ไม่ใช่แค่ตามโรค แต่ต้องดู สมดุลของหยิน-หยาง และพลังชี่ของร่างกาย

ทำไมบางคนกินยาจีนแล้วไม่เห็นผล?

แม้ว่าจะมีการเลือก ยาจีน อย่างเหมาะสม แต่บางครั้งคนไข้ยังรู้สึกว่า ทำไมกินแล้วไม่ได้ผล? นี่อาจเป็นเพราะสาเหตุเหล่านี้

🚫 ต้มยาผิดวิธี – ยาบางชนิดต้องต้มในน้ำเย็นก่อน บางตัวต้องเคี่ยวในน้ำเดือดนานๆ
🚫 ไม่ปฏิบัติตามข้อห้าม – เช่น ยาจีนบางชนิดห้ามกินคู่กับชา กาแฟ หรืออาหารแสลง
🚫 ร่างกายยังไม่สมดุลพอ – ยาจีนทำงานแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ยาแผนปัจจุบันที่เห็นผลเร็ว
🚫 ใช้ยาจีนร่วมกับยาแผนปัจจุบันโดยไม่ปรึกษาหมอ – บางกรณีต้องปรับสมดุลให้เหมาะสมก่อน

หากอยากให้ ยาจีน ได้ผลดี ควรปรึกษาหมอจีนที่มีประสบการณ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

สรุป: หมอจีนเลือกยาจีนอย่างไร?

หมอจีนวิเคราะห์สุขภาพก่อน ไม่ได้เลือกยาแค่ตามอาการ
การจ่ายยาจีนต้องจัดเป็นสูตร ไม่ใช้สมุนไพรเดี่ยวๆ
ต้องเลือกยาจีนที่สมดุลกัน ทั้งตัวยาหลัก ตัวยารอง และตัวยานำ
ยาจีนมีหลายประเภท ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาวะร่างกาย
ต้องต้มยาและกินตามคำแนะนำของหมอจีนเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

หากคุณกำลังมองหาแนวทางการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ยาจีน เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยปรับสมดุลร่างกายจากภายใน แต่ต้องได้รับการดูแลจาก หมอจีนผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

Scroll to Top